วช. หนุนทีมวิจัย มธ. พัฒนาภาคการเกษตรไทยอย่างยั่งยืน ด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ DSmart Farming ... - MOJO THAI NEWS

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

วช. หนุนทีมวิจัย มธ. พัฒนาภาคการเกษตรไทยอย่างยั่งยืน ด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ DSmart Farming ...

สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) หนุนทีมวิจัย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) พัฒนาภาคการเกษตรไทยอย่างยั่งยืน ด้วยระบบเกษตรอัจฉริยะ DSmart Farming เน้นสร้างการเรียนรู้ให้กับผู้ใช้งาน พร้อมแชร์ฐานข้อมูลองค์ความรู้ให้เกษตรกรเข้าถึงได้ ทีมวิจัยเผยนวัตกรรมนี้ ช่วยลดการใช้น้ำในการปลูกพืชได้กว่า 40 %

ดร.วิภารัตน์  ดีอ่อง  ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า.. สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีในการประยุกต์ใช้กับภาคการเกษตร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตให้มากขึ้น  ที่ผ่านมา วช. ได้มีส่วนในการสนับสนุนให้เกิดการพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ ด้านเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farm) ซึ่งเป็นการทำการเกษตรรูปแบบใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีที่มีความแม่นยำสูงเข้ามาช่วยในการทำงานทำให้ได้ผลผลิตเพิ่มมากขึ้นและใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่ามากที่สุด แต่อย่างไรก็ตาม การพัฒนาภาคการเกษตรไทยอย่างยั่งยืนนั้น  นอกจากจะส่งเสริมให้เกิดการสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ แล้ว ยังจำเป็นต้องสร้างการเรียนรู้ให้กับผู้ใช้งานเพื่อให้เกิดการประยุกต์ใช้งานที่เหมาะสมในแต่ละพื้นที่อีกด้วย  อย่างเช่น  ระบบเกษตรอัจฉริยะเพื่อการเรียนรู้ทุกช่วงวัย และพัฒนาภาคการเกษตรไทยอย่างยั่งยืน ที่ทีมวิจัยจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต พัฒนาขึ้น และ วช. ได้สนับสนุนทุนวิจัยปี พ.ศ. 2564 ในโครงการ “การพัฒนาเทคโนโลยีการให้น้ำแบบอัจฉริยะเพื่อการผลิตพืชผักอินทรีย์มูลค่าสูงเชิงพาณิชย์แบบมีส่วนร่วมกับชุมชนเกษตรกรรายย่อย” ซึ่งมี รองศาสตราจารย์ ดร.ดุสิต อธินุวัฒน์   เป็นหัวหน้าโครงการ พร้อมด้วยทีมผู้ประดิษฐ์ประกอบด้วยนางสาวรมย์นลิน  จันทะวงษ์  และนายชยากร  ตังสุรัตน์   

รองศาสตราจารย์ ดร.ดุสิต  อธินุวัฒน์  จากคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เปิดเผยว่า.. ระบบเกษตรอัจฉริยะเพื่อการเรียนรู้ทุกช่วงวัย ฯ หรือที่เรียกว่า  “ DSmart Farming ” เป็นการต่อยอดนวัตกรรมที่เน้นการสร้างการเรียนรู้ให้กับเยาวชนและเกษตรกรรุ่นใหม่  โดยนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นนี้ จะมีซอฟต์แวร์ที่จำเพาะและมีฐานข้อมูลหรือ database ที่ดี ทำให้สามารถประยุกต์ใช้ได้กับระบบการผลิตพืช สมุนไพร เห็ด ปศุสัตว์ สัตว์น้ำ และแมลงเศรษฐกิจ ช่วยเพิ่มผลผลิตให้คุ้มค่าต่อพื้นที่ และสามารถแก้ปัญหาเชิงพื้นที่ได้ ทำให้สามารถยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน 


“ DSmart Farming เป็นระบบที่มีการพัฒนาซอฟต์แวร์ ที่ตอบสนองต่อความต้องการของพืชที่แท้จริง ได้แก่ ความต้องการธาตุอาหารในดิน ทั้งไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม   ความต้องการน้ำ ความต้องการแสง รวมทั้งอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืชในแต่ละช่วงการเจริญเติบโตของพืช  สามารถควบคุมสภาวะที่เหมาะสมต่อการผลิตพืชหลายชนิดในแปลงเดียวกัน สามารถกดดูข้อมูลย้อนหลังได ้1 ปี และสามารถนำข้อมูลมาวิเคราะห์ปริมาณความต้องการปัจจัยการผลิตที่เหมาะสมกับพืชแต่ละชนิดได้ ช่วยลดปริมาณน้ำที่ใช้ในระบบการผลิตพืชได้ถึง 41-60% ประหยัดต้นทุน ประหยัดพลังงาน และช่วยเพิ่มปริมาณผลผลิตได้ถึง 20 - 29 % ” 


ระบบดังกล่าวจะเน้นสร้างการเรียนรู้ให้กับผู้ใช้งาน โดยผู้ใช้งานสามารถเรียกดูข้อมูลจาก web service ณ เวลาจริงได้ (real-time) และจะได้รับข้อมูลแจ้งเตือนสถานะการทำงานของระบบเกษตรอัจฉริยะที่ประดิษฐ์ขึ้นผ่าน line notify และ application ตลอด 24 ชั่วโมง ผู้ใช้งานสามารถปรับระบบการทำงานได้ด้วยตนเอง ทำให้เกิดการเรียนรู้การทำงานของระบบเกษตรอัจฉริยะที่สอดคล้องต่อความต้องการของพืชที่แท้จริง  



สำหรับการทดสอบการใช้งานระบบ ซึ่งได้รับทุนสนับสนุนจาก วช. ปัจจุบันมีการทดสอบการใช้งานจริงแล้วในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ลพบุรี และเชียงราย ผู้วิจัย บอกว่า.. ระบบนี้จะช่วยตอบโจทย์เกษตรกรในเรื่องของพืชเน่าเสีย เพราะให้น้ำเกินความต้องการ ขณะเดียวกันก็ช่วยลดปริมาณการใช้น้ำในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ และที่สำคัญให้เกษตรกรสามารถเรียนรู้การใช้ระบบ และเข้าถึงข้อมูลจำเพาะของพืชแต่ละชนิดที่เป็นองค์ความรู้บวกกับภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เก็บไว้ในฐานข้อมูลบนระบบคลาวด์ได้อีกด้วย ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad



Pages