“ โฆษก ทอ. ระบุ ไม่มีการลงโทษทหารใหม่จนตาบอดตามที่เป็นข่าว ”

พลอากาศตรี ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยถึงกรณีที่มีการเผยแพร่คลิปในสื่อสังคมออนไลน์ และการนำเสนอข่าวของสื่อมวลชน อ้างถึงพลทหารสังกัดหน่วยบัญชาการอากาศโยธิน ร้องว่า.. ถูกทำโทษจนทำให้ตาบอด โดยขณะนี้ พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้วและได้สั่งการให้สอบสวนข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน พร้อมชี้แจงให้สาธารณชนทราบเพื่อแสดงถึงความโปร่งใส โดยอยากขอให้สังคมฟังความอย่างรอบด้าน เนื่องจากกองทัพอากาศมีนโยบายที่ชัดเจน และ เน้นย้ำอยู่เสมอไม่ให้มีการทำร้ายร่างกายทหารหรือการลงโทษที่เกินกว่าเหตุในระหว่างการฝึก อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของทหารกองประจำการให้ดีขึ้นมาโดยตลอด อย่างไรก็ตามหากผลการสอบสวนพบว่ามีการกระทำที่ขัดต่อนโยบายดังกล่าว ก็จะมีการลงโทษตามระเบียบโดยไม่มีข้อยกเว้น

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้นจากผู้เกี่ยวข้อง ขอนำเรียนรายละเอียด ดังนี้..

- วันที่ 15 พฤษภาคม 2566 พลทหารคนดังกล่าว รายงานตัวเข้ารับการฝึก ณ หน่วยฝึกทหารกองประจำการใหม่ ศูนย์การทหารอากาศโยธิน หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน และแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ว่าตนเป็นโรคตาขี้เกียจ

- วันที่ 16-17 พฤษภาคม 2566 มีการฝึกเบื้องต้น อาทิ ท่าตรง ท่าตามระเบียบพัก ท่าทำความเคารพ และการดำเนินการด้านธุรการต่าง ๆ ทั้งนี้ พลทหารรายนี้ไม่ได้เข้ารับการฝึกเนื่องจากแจ้งว่าปวดตา จึงได้รับอนุญาตให้พักโดยนอนที่เตียงสนามในเต็นท์ของหน่วยฝึกฯ รอดำเนินการเรื่องสิทธิการรักษาแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย

- วันที่ 18 พฤษภาคม 2566 ได้เข้ารับการตรวจรักษาที่โรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) กรมแพทย์ทหารอากาศ โดยมีอาการปวดกระบอกตามากทั้งสองข้าง แสบตา น้ำตาไหล ลืมตาไม่ค่อยขึ้น ซึ่งเจ้าตัวแจ้งว่าเป็นมาตั้งแต่เด็ก โดยแพทย์โรงพยาบาลทหารอากาศ (สีกัน) วินิจฉัยว่าเป็นโรคตาขี้เกียจ สายตามีการมองเห็นที่เลือนรางสองข้าง และได้ทำการรักษาตามอาการ พร้อมทั้งวางแผนทำการตรวจรักษาอย่างต่อเนื่องโดยส่งตัวไปพบจักษุแพทย์เฉพาะทางที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช กรมแพทย์ทหารอากาศ และสุดท้ายได้นัดส่งต่อไปตรวจพิเศษที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติเพิ่มเติม โดยตลอดห้วงเวลาดังกล่าวพลทหารรายนี้ไม่ได้เข้ารับการฝึกแต่อย่างใด และหน่วยฝึกได้จัดบัดดี้ให้คอยดูแลตลอดเวลา ทั้งการรับประทานอาหาร เข้าห้องน้ำ และการดำเนินชีวิตประจำวันอื่น ๆ พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการรับส่งพาไปพบแพทย์ตามนัดทุกครั้ง นอกจากนี้ในระหว่างการตรวจเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์สมองเพื่อหาสาเหตุในการบกพร่องทางสายตา ได้ตรวจพบเนื้องอกขนาดเล็กในสมองอีกโรคหนึ่ง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนกระบวนการตรวจรักษาเช่นกัน ทางหน่วยฝึกกองทัพอากาศได้แจ้งรายละเอียดกับผู้ปกครอง (มารดา) แล้วก่อนหน้านี้ และผู้ปกครองได้รับทราบตกลงให้ทางหน่วยฝึกฯ เป็นผู้ดูแลขณะที่ทำการตรวจรักษา และรอการปลดประจำการซึ่งมีขั้นตอนทางกฎหมายที่จะต้องใช้เวลาดำเนินการพอสมควร

สำหรับประเด็นข่าวที่เกิดขึ้น อาจเกิดจากความวิตกกังวลและไม่เข้าใจในกระบวนการต่าง ๆ ทั้งที่ทางหน่วยฝึกฯ ได้ดูแลให้พลทหารได้เข้าถึงบริการทางการแพทย์และได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่องมาตลอด ซึ่งผู้บังคับบัญชาได้มอบหมายให้ผู้เกี่ยวข้องไปทำความเข้าใจกับผู้ปกครองและตัวพลทหารเพิ่มเติมแล้ว จากการตรวจสอบเรื่องการทำร้ายร่างกายนั้นทั้งจากครูฝึกและทหารกองประจำการในผลัดเดียวกัน กองทัพอากาศขอเรียนยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายร่างกายหรือการทำโทษพลทหารที่เกินกว่าเหตุแต่อย่างใด

โฆษกกองทัพอากาศ ขอเรียนเพิ่มเติมว่า.. พลอากาศเอก อลงกรณ์ วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตทหารกองประจำการ ด้วยการดูแลให้ได้รับสิทธิ สวัสดิการ รวมถึงปรับปรุงสภาพแวดล้อม ที่พักอาศัย สิ่งอำนวยความสะดวกที่จำเป็น เพื่อเสริมสร้างขวัญกำลังใจในการปฏิบัติงาน และสร้างแรงจูงใจให้เข้ารับราชการในกองทัพอากาศหลังจากปลดประจำการ ...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

CP LAND เปิดตัวภาพยนตร์โฆษณาชิ้นแรก ‘ ความสุขเกิดขึ้นได้ทุกที่รอบตัวคุณ ’ นำแสดงนำโดย สิงโต นำโชค ...

“ ศิลปินนักพันผ้า ” หนึ่งเดียวในไทย “ โสภาส ณ ตะกั่วทุ่ง ” ผู้คิดค้นวิธีรักษาผืนผ้าไหมไทยทั้งผืนเอาไว้เพื่อคนรุ่นหลัง ...

ททท. จัดอบรมโครงการ “ เจ้าบ้านที่ดี ” NEW CHAPTERS พร้อมกันทั่วประเทศ ผู้เข้าร่วมกว่า 2,500 คน มุ่งสู่การท่องเที่ยว NEXT NORMAL เตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่น ...