ครั้งแรกในไทย น้ำปลาเพื่อผู้ป่วยโรคไต งานวิจัยนับ 10 ปี สู่ความหวังในการมีชีวิตของผู้ป่วย ...

ในปัจจุบันมีผู้ป่วยจากรายงานของโรงพยาบาลในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข  ซึ่งเป็นโรคไตเรื้อรัง ระยะที่ 1-5 ทั้งหมด  สูงกว่า 1,000,000 ราย นอกจากจะเป็นความรับผิดชอบหลักในการบริการสุขภาพแล้ว ยังส่งผลต่อค่าใช้จ่ายในการรักษาจำนวนมหาศาลที่รัฐบาลต้องทุ่มเทลงไปทุก ทั้งนี้ เพราะ โรคไต พัฒนามาจากเบาหวาน โรคความดันสูง โรคอ้วน การสูบบุหรี่ และอื่น ๆ

โดย ผู้ป่วยโรคไต จำนวนมากต้องงดอาหารที่มีส่วนผสมของโซเดียมและโพแทสเซียม  เพื่อไม่ก่อให้เกิดภาวะไตวายเฉียบพลันในที่สุด ซึ่งที่ผ่านมา สถาบันโภชนาการหลายแห่งทั้งไทยและต่างประเทศพยายามอย่างยิ่งที่จะใช้นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และโภชนาการในการลดปริมาณโซเดียมและโพรแท็ดเซียมที่ผู้ป่วยได้รับให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม หากแต่ในอาหารจำนวนมากมีทั้งปริมาณของโซเดียมและโพแทสเซียมอยู่ไม่ว่าจะเป็นข้าวเนื้อสัตว์นมและผักผลไม้ รวมทั้งเครื่องปรุงต่างๆไม่ว่าจะเป็นซีอิ๊ว น้ำปลา และกลุ่มอาหารสำเร็จรูป ซึ่งอาหารจำนวนมากเป็นอาหารที่คุ้นชินในชีวิตประจำวันของคนไทย จึงเป็นไปได้ยากที่คนป่วยจะสามารถควบคุมปริมาณโซเดียมและโพแทสเซียมได้ตามที่แพทย์กำหนด

จนในที่สุด งานวิจัยของ ศ.ดร.สักกมน เทพหัสดิน ณ อยุธยา อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมอาหาร คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และ ทีมงาน ได้ทำการวิจัยการผลิตน้ำปลาโซเดียมต่ำโดยใช้เทคโนโลยีแยกสารผ่านเยื่อไฟฟ้าขึ้น เมื่อปี 2552 จนกระทั่งประสบความสำเร็จเมื่อไม่นานมานี้ และได้น้ำปลา ที่สามารถให้ผู้ป่วยโรค รวมถึงผู้ป่วยโรคหัวใจที่มีความละเอียดอ่อนต่อปริมาณโซเดียมและโพแทสเซียมบริโภคได้

เนื่องจากนวัตกรรมดังกล่าว ใช้หัวน้ำปลาผ่านกระบวนการแยกสารผ่านเยื่อด้วยไฟฟ้า  จึงผลิตออกมาเป็นน้ำปลาแท้ที่ลดทั้งโซเดียมและโพแทสเซียมลงถึง 40% หากยังมีรสชาติเหมือนน้ำปลาทั่วไป นับเป็นความหวังของผู้บริโภคที่เป็นผู้ป่วยโรค โรคหัวใจ และโรคอื่น ที่แพทย์สั่งให้รสเค็มจะสามารถบริโภคได้ในปริมาณปกติที่เหมาะสม ทำให้ผู้ป่วยไม่ต้องทนทุกข์ทรมานจากการบริโภคอาหารที่ขาดรสชาติ ซึ่งซึ่งสวนทางกับการใช้ชีวิตเดิมของผู้ป่วย ทำให้การรักษาผู้ป่วยเป็นไปด้วยความราบรื่นมากยิ่งขึ้น โดยผลสำรวจพบว่าครอบครัวของผู้ป่วยจำนวนมากพบกับปัญหาผู้ป่วยปฏิเสธอาหาร รวมถึงปฏิเสธการรักษา เนื่องจากไม่สามารถรับประทานอาหารที่ปกติได้ จึงเกิดการต่อต้าน ดังนั้นนวัตกรรมดังกล่าวจึงเป็นการเข้าแก้ไขปัญหาของผู้ป่วยได้ในอนาคต นอกจากนี้ยังดีต่อสุขภาพผู้บริโภคทั่วไปด้วย

ปัจจุบันน้ำปลาดังกล่าวเริ่มเข้าถึงประชาชนทั่วไปแล้วโดยใช้ชื่อว่า Sante มาจากคำฝรั่งเศสที่แปลว่าเพื่อสุขภาพที่ดี จึงนำมาใช้เป็นชื่อน้ำปลา โดยมีชื่อเต็มว่า น้ำปลาแท้รสโซเดียม ตรา ซองเต้ ซอส (Sante Sauce) ซึ่งเริ่มจำหน่ายผ่านทางช่องทางออนไลน์และซุปเปอร์มาร์เก็ตชั้นนำในกรุงเทพและปริมณฑลก่อน

นอกจากนี้ ยังวางแผนที่จะนำเสนอนวัตกรรมดังกล่าวในงาน ThaiFex Anuga 2024 ซึ่งเป็นงานมหกรรมอาหารที่ใหญ่ที่สุดของไทย ในวันที่ 28 พฤษภาคม ถึง 1 มิถุนายน ที่จะถึงนี้ ซึ่งได้รับความอนุเคราะห์จากทาง สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ให้นำผลิตภัณฑ์ไปร่วมนำเสนอต่อผู้บริโภคทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศในงาน นอกจากจะเป็นการเปิดโอกาสให้คนไทยได้รู้จักทางเลือกเพื่อสุขภาพมากยิ่งขึ้นแล้ว ยังการแสดงศักยภาพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของไทยให้นานาชาติเห็นเป็นที่ประจักษ์อีกด้วย

 สำหรับประชาชนที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่.. www.facebook.com/naturalproduces ...