เอสซีจี “ องค์กรแห่งโอกาส ” หนุนพลังคนปล่อยแสง ปั้นนวัตกรรมกรีนโดนใจ มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำ ...

เอสซีจี  องค์กรแห่งโอกาส ” หนุนพลังคนปล่อยแสง เปลี่ยนไอเดียให้เป็นจริง-พัฒนานวัตกรรมระดับโลก-ร่วมมือทุกภาคส่วน ปั้นนวัตกรรมกรีนโดนใจ คาร์บอนต่ำ มุ่งมั่นสร้างการเติบโตร่วมกันบนสังคมคาร์บอนต่ำ คุณภาพชีวิตดี เศรษฐกิจโต สังคม สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ปี 67 ตั้งงบพัฒนากระบวนการผลิตคาร์บอนต่ำและนวัตกรรมกรีน 10,000 ล้านบาท

นายธรรมศักดิ์ เศรษฐอุดม กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี กล่าวว่า.. การพัฒนานวัตกรรมกรีนเป็นกุญแจสำคัญในการแก้ปัญหาโลกเดือด และขอเชิญชวนทุกภาคส่วนมาร่วมกันสนับสนุนเลือกใช้นวัตกรรมกรีนที่ตอบโจทย์ การปรับเปลี่ยนครั้งนี้ไม่ง่าย เพราะต้องปรับเปลี่ยนทั้งเทคโนโลยี ความเข้าใจลูกค้าและตลาด รวมถึงกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ ซึ่ง ‘ พลังของคน ’ เป็นหัวใจสำคัญในการผลักดันการเปลี่ยนแปลงนี้

เอสซีจี จึงเปิดพื้นที่ สร้าง ‘ องค์กรแห่งโอกาส ’ (Organization of Possibilities) เพื่อให้ทุกคนทั้งพนักงาน พาร์ตเนอร์ คนทุกเจน มีพื้นที่แสดงพลังและปล่อยแพสชันไร้ขีดจำกัด คิดทำนอกกรอบ ทดลองเรียนรู้ เพื่อพัฒนานวัตกรรมกรีนที่ตอบโจทย์ลูกค้า สังคม สิ่งแวดล้อม และ สร้างการเติบโตให้ธุรกิจ เอสซีจี องค์กรแห่งโอกาสต่าง ๆ ประกอบด้วย.. 

1.) โอกาสเปลี่ยนไอเดียเป็นนวัตกรรม เช่น ให้พนักงานก้าวสู่การเป็นผู้ประกอบการกับโครงการสตาร์ตอัปภายในองค์กร ‘ ZERO TO ONE by SCG ’ โดยติดอาวุธทักษะความรู้ ตั้งแต่เริ่มทำความเข้าใจลูกค้า ค้นหาปัญหา การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ลูกค้า และการขยายฐานลูกค้าเพื่อการเติบโตอย่างก้าวกระโดด เพื่อเป็นเครื่องมือในการพัฒนาธุรกิจและนวัตกรรม อาทิ.. Design Thinking, Generative AI, Data Analytics ปัจจุบันมีผู้ร่วมกว่า 800 คน และมีสตาร์ตอัปในโครงการ 100 สตาร์ตอัป เช่น ‘ Wake Up Waste ’ แพลตฟอร์มรถบีบอัดขยะ ช่วยให้ขยะเล็กลง ขนส่งได้ปริมาณมากขึ้น เพื่อนำเข้าสู่กระบวนการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ ‘ Dezpax ’ แพลตฟอร์มออนไลน์แพคเกจจิ้งครบวงจรรายแรกในไทย สำหรับธุรกิจร้านอาหาร ฟู้ดเดลิเวอรี่ และ คาเฟ่ ขณะเดียวกัน ยังเปิดเวที ‘ SCG Young Talent Program ’ บ่มเพาะนวัตกรรุ่นใหม่จากมหาวิทยาลัยทุกชั้นปี ทุกสาขา ผ่านการทำงานกับเอสซีจี แบบทำจริง เจ็บจริง (Bootcamp) เป็นเวลา 13 สัปดาห์ เพื่อร่วมสร้างนวัตกรรมดิจิทัล ตอบเทรนด์อนาคต มีคนรุ่นใหม่เข้าร่วมแล้วกว่า 850 คน นอกจากนั้น สนับสนุนให้พนักงานทุกระดับเสนอไอเดียพัฒนาสิ่งต่าง ๆ ได้เสมอ สร้างวัฒนธรรมเปิดใจ ใฝ่เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ พัฒนาตัวเอง ไม่ยึดติดจากความสำเร็จเดิม (Open & Challenge) 

2.) โอกาสพัฒนานวัตกรรมระดับโลก สนับสนุนการวิจัยภายในองค์กรและร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลก เช่น ร่วมกับ ‘ Norner AS ’ ศูนย์วิจัยและพัฒนาพลาสติก ประเทศนอร์เวย์ และ ‘มหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด’ ประเทศอังกฤษ พัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อความยั่งยืน รวมทั้ง ร่วมมือกับสตาร์ตอัปจากสหรัฐอเมริกา ‘ Rondo Energy ’ เพื่อพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง (Deep Technology) ที่พลิกโฉมอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ เช่น แบตเตอรี่กักเก็บความร้อนจากพลังงานสะอาด 



และ 3.) โอกาสร่วมมือทุกภาคส่วน ทั้งเครือข่ายภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม เพื่อรวมพลังสร้างสังคมคาร์บอนต่ำที่เติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน เช่น ขับเคลื่อน ‘ สระบุรีแซนด์บ็อกซ์ ’ สร้างเมืองต้นแบบคาร์บอนต่ำแห่งแรกของไทย พาไทยมุ่งสู่ Net Zero ทั้งนี้ ปี 2567 เอสซีจี ตั้งงบพัฒนากระบวนการผลิตคาร์บอนต่ำและนวัตกรรมกรีนกว่า 10,000 ล้านบาท

กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวเพิ่มเติมว่า.. พลังของ ‘ องค์กรแห่งโอกาส ’ ทำให้เอสซีจีสร้างสรรค์หลากหลายนวัตกรรมกรีนโดนใจ โดยออกแบบกระบวนการผลิตให้ลดคาร์บอนไดออกไซด์ ควบคู่กับเพิ่มฟังก์ชันใช้งานที่ตอบโจทย์ลูกค้า สังคม สิ่งแวดล้อมยิ่งขึ้น อาทิ พลิกโฉมการก่อสร้างและอยู่อาศัยให้กรีนครบวงจร ตั้งแต่นวัตกรรมงานโครงสร้างจนถึงระบบเทคโนโลยีภายในและการตกแต่ง ก่อสร้างบ้าน อาคาร โครงการต่าง ๆ ด้วย ‘ ปูนคาร์บอนต่ำและคอนกรีตคาร์บอนต่ำ ’ จาก ‘ เอสซีจี ซีเมนต์แอนด์กรีนโซลูชัน ’ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แข็งแรง ได้มาตรฐาน ผิวเรียบ อายุยาวนาน สามารถตอบโจทย์โครงการรักษ์โลกต่าง ๆ ได้อย่างดี ทั้งงานอาคารขนาดใหญ่ งานนิคมอุตสาหกรรม งานท่าเรือ ไปจนถึงงานใต้ทะเล พร้อมยกระดับการอยู่อาศัยให้ดียิ่งขึ้นและเป็นมิตรต่อโลก โดย ‘ เอสซีจี สมาร์ทลีฟวิง ’ นำเสนอ ‘ วัสดุก่อสร้างครบทั้งหลัง ’ ดีไซน์สวยงาม ทนทาน และลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ได้รับการรับรอง SCG Green Choice และฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ ทั้งยังมีเทคโนโลยีเพื่อประสิทธิภาพการใช้พลังงานครบวงจร ตั้งแต่การลดการใช้พลังงานจากระบบปรับอากาศในอาคาร ด้วย ‘ SCG Air Scrubber ’ 

และ สร้างพลังงานสะอาดสำหรับใช้ภายในบ้าน-อาคารตลอด 24 ชั่วโมง ด้วย ‘ SCG Solar Hybrid Solutions ’ ตลอดจนโซลูชันใหม่อย่าง ‘Microgrid and Energy Storage System’ ที่ช่วยให้การบริหารจัดการใช้พลังงานมีประสิทธิภาพสูงสุด กักเก็บพลังงานทดแทนจากแสงอาทิตย์ไว้สำหรับใช้งานในช่วงต่าง ๆ ของวัน นอกจากนั้น ‘ เอสซีจี เดคคอร์ ’ พร้อมเสิร์ฟนวัตกรรมตกแต่งพื้นผิวและสุขภัณฑ์ครบวงจร ล่าสุด เปิดตัว ‘ COTTO CLAY DECOR COLLECTION ’ ดูดซับความร้อนได้ดี ช่วยให้บ้านเย็น ประหยัดพลังงาน และนวัตกรรม ‘ ก๊อกน้ำรุ่น GEO Series ’ ที่ใช้นวัตกรรมการผลิตแบบ Non-Foundry Process ดีไซน์ก๊อกน้ำที่ใช้ท่อทองเหลืองมาเป็นส่วนหนึ่งในงานออกแบบ สามารถลดใช้พลังงานในการหลอมขึ้นรูป และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าร้อยละ 10

ยกระดับไลฟ์สไตล์ให้สะดวกผู้ใช้ สบายโลกมากยิ่งขึ้น ด้วยนวัตกรรมจาก ‘ SCGP ’ ที่ช่วยสร้างความยั่งยืนตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ตั้งแต่การพัฒนายูคาลิปตัสเพื่อเป็นวัตถุดิบทดแทน (Renewable Resource) การเพิ่มประสิทธิภาพการนำกระดาษรีไซเคิลสู่กระบวนการผลิต พัฒนากระบวนการผลิตให้ลดคาร์บอนไดออกไซด์ด้วย Machine Learning และปัญญาประดิษฐ์ (AI) และการเพิ่มทางเลือกบรรจุภัณฑ์ที่สามารถรีไซเคิลและใช้ซ้ำได้ เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน รวมถึงมุ่งพัฒนานวัตกรรมในกลุ่มสินค้าใหม่ ๆ อย่างกลุ่มวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อเตรียมรองรับเทรนด์การใส่ใจสุขภาพไปกับความยั่งยืน ขณะที่ ‘ เอสซีจี เคมิคอลส์ (SCGC) ’ มุ่งพัฒนานวัตกรรมพลาสติกรักษ์โลก ภายใต้แบรนด์ ‘ SCGC GREEN POLYMERTM ’ พร้อมนำเสนอกรีนโซลูชันตามแนวทาง Low Waste, Low Carbon 


โดยได้ขยายกำลังการผลิตพลาสติกรีไซเคิลในยุโรป ได้แก่.. ‘ ซีพลาสต์ ’ (Sirplaste) โปรตุเกส เพิ่มขึ้น 9,000 ตันต่อปี เป็น 45,000 ตันต่อปี และ ‘ คราส ’ (Kras) เนเธอร์แลนด์ เพิ่มขึ้น 9,000 ตันต่อปี เป็น 18,000 ตันต่อปี ตอบโจทย์ความต้องการนวัตกรรมกรีนในระดับโลก ขณะที่ในภูมิภาค ร่วมกับคู่ธุรกิจมุ่งเปลี่ยนของใกล้ตัวผู้บริโภคให้กรีนยิ่งขึ้น อาทิ ร่วมกับ HomePro พัฒนา ‘เครื่องใช้ไฟฟ้ารักษ์โลก’ ครั้งแรกในไทย โดยรีไซเคิลพลาสติกจากเครื่องใช้ไฟฟ้าใช้แล้วให้กลับมาผลิตใช้ใหม่ นอกจากนั้น ร่วมกับ Braskem ผลิต ‘พลาสติกชีวภาพ’ หรือ Bio-Polyethylene ที่เปลี่ยนการใช้วัตถุดิบตั้งต้นจากฟอสซิลเป็นวัตถุดิบชีวภาพ มีปริมาณการปล่อยคาร์บอนเป็นลบ ร่วมกับ Denka ผลิต ‘ Acetylene Black ’ ซึ่งเป็นสารนำไฟฟ้าสำคัญสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ EV มุ่งสู่ Green Mobility พร้อมทั้งนวัตกรรมสุดล้ำล่าสุดที่ SCGC พัฒนาร่วมกับ Avantium ในการ ‘ เปลี่ยนก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นพอลิเมอร์คาร์บอนฟุตพริ้นท์เป็นลบ ’ (Carbon-Negative Plastic)  นอกจากนี้ SCGC ยังได้รุกสู่ธุรกิจโซลูชันในการปรับปรุงและแก้ปัญหาในโรงงานอุตสาหกรรม (Industrial Solutions) ภายใต้แบรนด์ ‘ REPCO NEX ’ พร้อมส่งมอบ Innovative & Digital โซลูชันเพื่อความยั่งยืน อาทิ.. พลังงานสะอาด (Renewable Energy) ระบบการผลิตอัจฉริยะ (Smart Manufacturing) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมทั้งลดการใช้ทรัพยากร และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ 

สำหรับภาคธุรกิจที่มุ่งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิจนเป็นศูนย์ ‘ เอสซีจี คลีนเนอร์ยี่ ’ ช่วยก้าวข้ามข้อจำกัดในการใช้พลังงานสะอาดของภาคอุตสาหกรรม เร่งการเปลี่ยนผ่านให้เร็วยิ่งขึ้น ด้วยแพลตฟอร์มซื้อขายพลังงานสะอาดอัจฉริยะ ‘ Smart Grid ’ เพื่อเข้าถึงพลังงานแสงอาทิตย์สะดวกยิ่งขึ้น รวมทั้งนวัตกรรมแห่งอนาคตอย่าง ‘ แบตเตอรี่กักเก็บพลังงานความร้อนจากพลังงานสะอาด ’ ทดแทนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลทำความร้อนหรือไอน้ำในกระบวนการผลิตของภาคอุตสาหกรรม ตลอดจน ‘ เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ ’ พร้อมเป็นตัวกลางเชื่อมต่อสังคมโลว์คาร์บอน ซัพพอร์ทลูกค้าและคู่ธุรกิจมุ่งสู่เป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ใน Scope 3 ด้วยบริการด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน ที่นำเทคโนโลยีมาช่วยบริหารจัดการระบบโลจิสติกส์ให้มีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม อาทิ ‘ กลุ่มธุรกิจคลังสินค้าห้องเย็น ’ (Cold Chain Business) มีการใช้เทคโนโลยีจัดเก็บและจ่ายสินค้าอัตโนมัติ (Automated Storage Retrieval System) หรือ ASRS พร้อมด้วยระบบ ‘ Solar Roof ’ เปลี่ยนสู่การเป็นคลังสินค้าประหยัดพลังงาน ลดการใช้เชื้อเพลิง ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ นอกจากนั้น ยังมีนวัตกรรมด้านกรีนโลจิสติกส์อื่น ๆ  เช่น ‘ รถขนส่งพลังงานไฟฟ้า ’ , ‘ ระบบคำนวณเส้นทางอัจฉริยะ (AI Route Optimization) ’ , ‘ หุ่นยนต์ลำเลียงอัตโนมัติ (AGV & Robotics) ’ ที่ช่วยสร้างความยั่งยืน และ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับธุรกิจ 

“ เอสซีจีสามารถเดินหน้านวัตกรรมกรีนมาจนถึงวันนี้ มียอดขายนวัตกรรมรักษ์โลก SCG Green Choice ร้อยละ 53 จากยอดขา ยทั้งหมด และมุ่งสู่เป้าหมายยอดขายร้อยละ 67 ภายในปี 2573 ก็เพราะพลังของทุกคน เราจึงพร้อมเดินหน้าสนับสนุนและชวนทุกคนปล่อยแสงเต็มที่ เพื่อสร้างสังคมคาร์บอนต่ำที่ผู้คนมีคุณภาพชีวิตดี เศรษฐกิจเติบโต สังคม สิ่งแวดล้อมน่าอยู่ เปิดให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ตามแนวทาง Inclusive Green Growth ” นายธรรมศักดิ์ สรุปปิดท้าย ...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท. ร่วมมือกับ บขส. จัดรถนำเที่ยวฟรี 10 วัน โอกาสครั้งสำคัญ เปิดกรุ มรดกธรรมล้ำค่าแห่งยุครัตนโกสินทร์ เส้นทางเที่ยวชมโบราณวัตถุล้ำค่าที่หาดูได้ยากกับกิจกรรม “ เป็นบุญตา ครั้งหนึ่งในชีวิต ”

สมาคมการค้าโกโก้และช็อกโกแลตไทย (TACCO) แถลงข่าวการจัดตั้งสมาคมการค้าโกโก้และช็อกโกแลตไทย พร้อมเปิดตัว งาน Thailand Craft Chocolate Fest’24 ...

CP LAND ผนึกกำลังครั้งยิ่งใหญ่กับ 17 พันธมิตร อัดแคมเปญแรงส่งท้ายปี ‘ สิงโต นำโปร ’