มาทำความรู้จัก " 2 ทหารเรือ " กับ เสียงประวัติศาสตร ์“ บทกาพย์เห่เรือ ” ใน ขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ...
หลายคนยังไม่ทราบว่า “ กาพย์เห่เรือ ” เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐิน โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เมื่อวันที่ 27 ต.ค. ที่ผ่านมานั้น
โดย กาพย์เห่เรือ ที่ใช้ในพระราชพิธีครั้งนี้ เป็นการประพันธ์ขึ้นใหม่ โดย พล.ร.ต.ทองย้อย แสงสินชัย เป็นอีกส่วนหนึ่งที่สำคัญยิ่งของขบวนพยุหยาตราทางชลมารค นั้นคือ การให้จังหวะแก่ฝีพายให้พายตามจังหวะทำนอง เพื่อให้เรือแล่นไปอย่างพร้อมเพรียง และสวยงาม ที่เรียกว่า " การเห่เรือ "
“ การแห่เรือ ” มีวัตถุประสงค์ คือ การให้จังหวะแก่ฝีพายจำนวนมากในการพายเรือพระราชพิธี ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดความพร้อมเพรียงแล้ว ยังปลุกเร้าฝีพายให้มีพลัง ไม่เหน็ดเหนื่อยง่าย
ส่วน “ คำประพันธ์ ” สำหรับใช้เป็นแบบอย่างของบทเห่เรือเก่าที่สุดที่เหลือเป็นหลักฐานสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน คือ กาพย์เห่เรือ บทพระนิพนธ์เจ้าฟ้าธรรมธิเบศรไชยเชษฐ์สุริยวงศ์ หรือ " เจ้าฟ้ากุ้ง " ในสมัยอยุธยาตอนปลาย
ในสมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่ครั้งรัชกาล พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปรากฏหลักฐานการนำบทเห่เรือ ทั้งที่มีมาแต่เดิมและประพันธ์ขึ้นใหม่มาใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารคเนื่องในการพระราชพิธีต่าง ๆ สืบมา
และ ในวันที่ 27 ตุลาคม 2567 กาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ในพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลถวายผ้าพระกฐินโดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ประพันธ์โดย " พล.ร.ต.ทองย้อย แสงสินชัย " ประกอบด้วย 4 บท ได้แก่..
• บทสรรเสริญพระบารมี
• บทชนเรือกระบวน
• บทบุญกฐิน
และ
• บทชมเมือง
สำหรับการเห่เรือของไทย ปรากฏหลักฐานอย่างชัดเจน ในสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย สันนิษฐานว่า เดิมการเห่เรือน่าจะมีที่มาจากการให้จังหวะเพื่อให้การพายเรือเป็นไปอย่างพร้อมเพรียง ต่อมาจึงค่อยๆ พัฒนาเป็นทำนองที่ชัดเจน ประกอบด้วย
- ช้าลวะเห่ (ช้า-ละ-วะ-เห่) เป็นการเห่ที่มีการเอื้อนเป็นทำนองช้า ๆ ใช้ในการเห่เรือเมื่อพายเรือ ตามน้ำซึ่งไม่ต้องการจังหวะที่รวดเร็วมากนัก
- มูลเห่ (มูน-ละ-เห่) เป็นการเห่ที่มีทำนองเร็วกว่าช้าลวะเห่ ใช้ในการเห่เรือเมื่อพายเรือทวนน้ำ ซึ่งต้องการจังหวะฝีพายที่รวดเร็ว
- สวะเห่ (สะ-วะ-เห่) เป็นการเห่ซึ่งสันนิษฐานว่าน่าจะมีความเก่าแก่ที่สุด ใช้ในการเห่เมื่อเรือพระที่นั่งจะเข้าเทียบท่า
สำหรับกำลังพลของกองทัพเรือที่เป็นผู้ขับบทประพันธ์เห่เรือในครั้งนี้คือ..
• พนักงานเห่เรือ คนที่ 1 ได้แก่.. ร.ท.สุราษฎร์ ฉิมนอก (เห่เกริ่น ช้าละวะเห่ มูลเห่ และบทที่ 1 บทสรรเสริญพระบารมี)
• พนักงานเห่เรือ คนที่ 2 ได้แก่.. พ.จ.อ.พูลศักดิ์ กลิ่นบัว (เห่บทบุญกฐิน บทชมเรือ / ส่วนหนึ่ง และจบด้วยสวะเห่ นำเรือเข้าเทียบ)
และถือเป็นครั้งแรกที่มีพนักงานเห่ 2 คน ได้ประจำอยู่ที่เรือ “ อนันตนาคราช ”
นอกจากนี้ “ กองทัพเรือ ” ได้จัดเตรียมพนักงานเห่ ไว้ 3 คน อีกคนหนึ่งเป็นพนักงานขานยาว อยู่ที่เรืออเนกชาติภุชงค์ โดย กราบบังคมทูลขอพระบรมราชานุญาตไป 2 คน และ พระราชทานให้เป็น พนักงานเห่ ทั้ง 2 คน ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่มีตัวตายตัวแทน ดังนั้น กองทัพเรือ จึงเห็นความสำคัญจึงต้องผลิต พนักงานเห่ ไว้เพื่อทดแทนกัน ...
#ดอก สามัคคี สี่เหล่า #ทัพหลวงนิวส์ #Thapluangnews #เดอะมิชชั่นไทม์ #ทัพหน้า - รายงาน ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น