ผบ.ทร. เรียกประชุมผู้บังคับหน่วย ทร. พร้อมสั่งการสนับสนุน ศบภ.ทร. และ ศรชล. ช่วยเหลือประชาชน ฟื้นฟูสภาพบ้านเรือนและพื้นที่ประสบอุทกภัย ...
ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เรียกประชุมผู้บังคับหน่วย กองทัพเรือ (ทร.) ในพื้นที่ต่าง ๆ วันแรกหลังรับตำแหน่งใหม่ พร้อมสั่งการหน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือ จัด กำลังพลและยุทโธปกรณ์ สนับสนุน ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ และ ศรชล. ช่วยเหลือประชาชน ฟื้นฟูสภาพบ้านเรือนและพื้นที่ประสบอุทกภัย ในพื้นที่ จ.เชียงราย และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2567 วันแรกหลังรับตำแหน่งใหม่ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ /ผู้อำนวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (ศบภ.ทร.) ได้เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยของกองทัพเรือในพื้นที่ต่าง ๆ ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อติดตามสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ต่าง ๆ และรับทราบผลการปฎิบัติ ปัญหา อุปสรรคข้อขัดข้อง จากที่ได้ปฏิบัติภารกิจให้การช่วยเหลือประชาชน
ปัจจุบันศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ (ศบภ.ทร.) ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย โดย ชุดบรรเทาสาธารณะภัยหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย ชุดค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) ขณะที่หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่ จ.เชียงราย นำเครื่องจักรขุดโคลน ขยะ และพัฒนาเส้นทางในพื้นที่รับผิดชอบ รวมถึงซ่อมแซมและฟื้นฟูบ้านพักอาศัยให้กับประชาชนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และฟื้นฟูพื้นที่สาธารณะที่ได้รับความเสียหาย ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือประสบวิกฤตน้ำเอ่อล้นจากแม่น้ำโขงเข้าท่วมบ้านเรือนและพื้นที่การเกษตรเป็นวงกว้างนั้น นรข. ได้มีการเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ และได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือในการวางกระสอบทรายเพื่อจัดทำแนวป้องกันน้ำจากแม่น้ำโขงที่เอ่อล้น ทำการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง การอพยพลำเลียงคน สัตว์เลี้ยง สิ่งของไปยังพื้นที่ปลอดภัย ตลอดถึงการนำอาหารและสิ่งของบรรเทาทุกข์จ่ายแจกให้กับผู้ประสบภัย และจะดำรงการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องต่อไปจนกว่าสถานการณ์จะเรียบร้อย
ทั้งนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อำนวยการ ศบภ.ทร. ได้เน้นย้ำและสั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยของหน่วยกองทัพเรือในทุกพื้นที่ ซึ่งรวมถึงพื้นที่จังหวัดจันทบุรีและตราด พื้นที่ภาคใต้ และพื้นที่กรุงเทพมหานคร ให้ดำเนินการตรวจสอบความพร้อมและเตรียมความพร้อมกำลังพลและยุทโธปกรณ์สำหรับป้องกันเหตุไว้ล่วงหน้าในที่ตั้ง เพื่อให้สามารถสนับสนุนจังหวัดต่างๆ ตามที่จะได้รับการร้องขอเมื่อมีการประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยหรือตามกฎระเบียบที่ทางราชการกำหนด จะได้สามารถให้ความช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ โดยให้มีการติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด จัดระดับการแจ้งเตือน และทำการประกาศแจ้งเตือนประชาชนรับทราบทางช่องทางต่าง ๆ เมื่อมีแนวโน้มในพื้นที่ตามลำดับ โดยได้สั่งให้รวบรวมสถิติการเกิดภัยพิบัติต่างๆ ทั้งหมดในพื้นที่รับผิดชอบในรอบปีเพื่อเป็นฐานข้อมูลและเตรียมการด้วย
นอกจากนี้ ผอ.ศบภ.ทร. สั่งการให้ ศบภ.พื้นที่ต่าง ๆ ซักซ้อมขั้นตอนการปฏิบัติและการบูรณาการร่วมกับหน่วยอื่นๆ ในพื้นที่ตั้งแต่ การแจ้งเตือนภัย การเตรียมความพร้อม การให้ความช่วยเหลือ การฟื้นฟู การถอนกำลังและส่งคืนพื้นที รวมทั้ง ให้นำแนวทางดังกล่าวไปใช้กับภัยธรรมชาติหรืออุบัติเหตุรุ่นแรงที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่ ตลอดถึงรวบรวมความต้องการเครื่องมืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับช่วยเหลือบรรเทาสาธารณภัยประเภทนั้น ๆ เพื่อพิจารณาจัดหาเพิ่มเติมตามความเหมาะสมต่อไป
กองทัพเรือ จะยังคงอยู่เคียงข้างผู้ประสบอุทกภัย โดยสามารถแจ้งขอความช่วยเหลือถึงหน่วยเฉพาะกิจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย กองทัพเรือ พื้นที่จังหวัดเชียงราย ได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0931763774, พื้นที่หนองคาย โทร. 042451075, พื้นที่นครพนม โทร. 042541205 และ พื้นที่อุบลราชธานี โทร. 045251578 หรือที่ สายด่วนศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพเรือ 1696 ตลอด 24 ชั่วโมง ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น