ที่ ศูนย์ต้นแบบเครือข่ายเตือนภัยพิบัติชุมชนเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ตำบลเกาะขันธ์ จังหวัดนครศรีธรรมราช / เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2568 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ร่วมกับสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ จัดกิจกรรมเปิดศูนย์ศึกษาและพัฒนาระบบการใช้โดรนเพื่อสนับสนุนเมื่อเกิดภัยพิบัติในพื้นที่ภาคใต้ : ต้นแบบจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมี ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ เป็นประธานในพิธีเปิด ร่วมด้วย นางวันทนีย์ เหลืองวิสุทธิ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ, จ่าโทโกเมศร์ ทองบุญชู หัวหน้าศูนย์การจัดการภัยพิบัติตำบลเกาะขันธ์ และ ผู้ทรงคุณวุฒิ วช.
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า.. การนำวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม โดยสนับสนุนการจัดตั้ง “ศูนย์ศึกษาและพัฒนาระบบการใช้โดรนเพื่อสนับสนุนเมื่อเกิดภัยพิบัติ” ณ ตำบลเกาะขันธ์ อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช ในครั้งนี้ จึงเป็นก้าวสำคัญในการบูรณาการเทคโนโลยีโดรนกับระบบการจัดการภัยพิบัติ ศูนย์แห่งนี้จะทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้ ทดสอบ พัฒนาระบบโดรนและสนับสนุนการกู้ภัยในภาวะวิกฤต จากสถานการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นในช่วงฤดูมรสุม รวมทั้งมีการฝึกอบรมการใช้เทคโนโลยีโดรนเพื่อเฝ้าระวังและสำรวจพื้นที่เสี่ยงภัย เพื่อวางแผนและเตือนภัยล่วงหน้าเสริมสร้างระบบการตอบสนองฉุกเฉินระดับชุมชนอย่างรวดเร็วและแม่นยำ รวมถึงสนับสนุนส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการบริหารจัดการภัยพิบัติอย่างยั่งยืน
นางวันทนีย์ เหลืองวิสุทธิ์ เลขาธิการสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ กล่าวถึง.. โครงการจัดตั้งศูนย์ฯแห่งนี้ เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน มีการยกระดับศักยภาพของชุมชนและหน่วยงานในพื้นที่เสี่ยงภัยให้สามารถใช้เทคโนโลยีโดรนในการสำรวจแจ้งเตือนขนส่งสิ่งของและสนับสนุนการจัดการภัยพิบัติได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้มีการจัดอบรมเชิงปฏิบัติการให้กับเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอาสาสมัครและผู้มีบทบาทในการจัดการภัยพิบัติมากกว่า 100 คน ซึ่งมีความพร้อมในการรับมือภาคปฏิบัติในอย่างทันท่วงที
จ่าโทโกเมศร์ ทองบุญชู หัวหน้าศูนย์การจัดการภัยพิบัติตำบลเกาะขันธ์ เปิดเผยว่า.. ตำบลเกาะขันธ์ ในพื้นที่เผชิญกับปัญหาน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มเป็นประจำ โดยเฉพาะในฤดูฝนภัยพิบัติเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างต่อเนื่องแม้ชุมชนมีความพยายามในการเฝ้าระวัง แต่ยังขาดเครื่องมือและระบบเตือนภัยที่ทันสมัยศูนย์การจัดการภัยพิบัติ จึงขอขอบคุณ วช. และสมาคมฯ ที่เล็งเห็นความสำคัญของเทคโนโลยีโดรนในการบริหารจัดการพื้นที่เสี่ยง โดรนจะถูกนำมาสำรวจ และสนับสนุนภารกิจฉุกเฉินรวมถึงการส่งของช่วยเหลือในพื้นที่ห่างไกลหรือเข้าไม่ถึงศูนย์ฯ แห่งนี้จะทำหน้าที่เป็นแหล่งเรียนรู้และพัฒนาทักษะให้กับคนในชุมชนโดยมุ่งหวังให้คนในพื้นที่สามารถใช้เทคโนโลยีรับมือภัยพิบัติได้ด้วยตนเอง ...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น