ปส. ขับเคลื่อนนโยบาย “ รมว.ศุภมาส ” จัดประชุมนานาชาติ 15 ประเทศ วางกรอบรับมือภัยนิวเคลียร์รังสี ปกป้องสร้างความปลอดภัยระดับชาติและประชาชน ...
นายแพทย์รุ่งเรือง กิจผาติ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รรท. เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กล่าวว่า.. นโยบายของ ท่านศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) ที่เน้นการสร้างความมั่นคงของชีวิต เศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยวิจัย นวัตกรรมและพัฒนาระบบเฝ้าระวังป้องกันควบคุมกำกับที่ดี โดยให้นำประโยชน์จาก “ พลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ ” มาใช้ในการพัฒนาประเทศและสร้างประโยชน์ให้กับพี่น้องประชาชน ภายใต้การกำกับควบคุมที่ได้มาตรฐานปลอดภัย สำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) กระทรวง อว. ได้เป็นเจ้าภาพจัดการฝึกอบรมระดับนานาชาติ " International Workshop on Developing a National Framework for Managing the Response to Criminal or Intentional Unauthorized Acts Involving Nuclear or Other Radioactive Material " ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 24 – 28 มีนาคม 2568 ณ โรงแรมแชงกรีลา เชียงใหม่ โดยมีผู้เชี่ยวชาญจาก 15 ประเทศ รวม 30 คน เข้าร่วมประชุมเพื่อร่วมกันพัฒนากรอบการทำงานระดับชาติในการรับมือกับภัยคุกคามทางนิวเคลียร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและภูมิภาค ให้เกิดความปลอดภัยต่อประชาชน และ สิ่งแวดล้อม
![]() |
' ศุภมาส อิศรภักดี ' รัฐมนตรีกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) |
![]() |
นายแพทย์ ' รุ่งเรือง กิจผาติ ' อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ รรท. เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ (ปส.) |
การฝึกอบรมครั้งนี้ มุ่งเน้นให้ผู้เข้าร่วมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถประเมินศักยภาพและบทบาทของแต่ละหน่วยงานในการตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคเพื่อให้มาตรการด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์มีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น และช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในเรื่องของมาตรการป้องกันภัยนิวเคลียร์ที่รัดกุม เพิ่มขีดความสามารถของประเทศในการรับมือกับภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น และยกระดับสถานะของไทยในเวทีโลก
นอกจากนี้ การประชุมดังกล่าวยังเป็นโอกาสสำคัญในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดระหว่างประเทศสมาชิก เพื่อพัฒนาแผนตอบสนองที่มีมาตรฐานและสามารถนำไปปรับใช้ได้จริง โดยมุ่งเน้นทั้งด้านการป้องกัน การตรวจจับ และ การตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินที่เกี่ยวข้องกับวัสดุนิวเคลียร์และกัมมันตรังสี รวมถึงการพัฒนาขีดความสามารถของบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพในสถานการณ์วิกฤต
การประชุมนานาชาติครั้งนี้ นับเป็นอีกก้าวสำคัญของประเทศไทยในการยกระดับมาตรการป้องกันและรับมือภัยคุกคามนิวเคลียร์ ตลอดจนสร้างความปลอดภัยให้กับประชาคมโลกอย่างยั่งยืน พร้อมผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านความมั่นคงทางนิวเคลียร์ในภูมิภาค ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างเสถียรภาพและความปลอดภัยให้กับประชาชน รวมถึงป้องกันการนำวัสดุนิวเคลียร์ไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของทั้งประเทศและภูมิภาคโดยรวม ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น