‘ พิพัฒน์ ‘ เริ่มแผนพัฒนาฝีมือแรงงานไทยปี68-70 ระดมทุกภาคอุตสาหกรรม เคลื่อนการพัฒนาคน รองรับนิวเทคโนโลยี ทันต่อการแข่งขันตลาดโลก ... - MOJO THAI NEWS

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันศุกร์ที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2568

‘ พิพัฒน์ ‘ เริ่มแผนพัฒนาฝีมือแรงงานไทยปี68-70 ระดมทุกภาคอุตสาหกรรม เคลื่อนการพัฒนาคน รองรับนิวเทคโนโลยี ทันต่อการแข่งขันตลาดโลก ...

ที่ โรงแรมเซ็นทารา ไลฟ์ ศูนย์ราชการและคอนเวนชันเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ / เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2568 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดโครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการระดมสมองเพื่อจัดทำ (ร่าง) แผนพัฒนาฝีมือแรงงานรองรับการเพิ่มรายได้และผลิตภาพแรงงาน พ.ศ. 2568 - 2570 (Master Plan) โดยมี ผู้บริหารกระทรวงแรงงาน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน พร้อมด้วย รองประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน สภาผู้แทนราษฎร , รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศ , รองประธานและประธานคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย เข้าร่วมด้วย 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า.. ปัจจุบันอุตสาหกรรมแรงงาน กำลังเผชิญกับปัจจัยการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น  การเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี ดิจิทัล AI การเข้าสู่สังคมสูงอายุ เป็นต้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อการแข่งขันในตลาดแรงงานทั่วโลก  ทำให้การเตรียมแรงงานในประเทศไทย จึงต้องมีความพร้อมในทักษะหลากหลาย ทั้ง Hard skills และ Soft Skills เช่น ทักษะด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย ในทุกอุตสาหกรรม รวมถึงความรู้ด้านภาษาที่3 ด้วย











ดังนั้น กระทรวงแรงงานโดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจึงมีความจำเป็นต้องมีแผนแม่บท (Master Plan) ปี 2568 ถึง 2570  ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเพื่อใช้เป็นทิศทางการดำเนินงานพัฒนาทักษะของแรงงานในภาพรวมของประเทศให้ตอบสนองความต้องการตลาดแรงงานได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ แผนฉบับนี้จะครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นแรงงานในภาคอุตสาหกรรม ภาคบริการ ภาคเกษตร หรือแม้แต่แรงงานนอกระบบ โดยมีเป้าหมายที่จะให้ทุกคนมีโอกาสเข้าถึงการพัฒนายกระดับเพื่อเพิ่มผลิตภาพแรงงานอย่างเท่าเทียมกัน

ด้าน นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กล่าวเสริมว่า.. การสัมมนาครั้งนี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในการจัดทำ (ร่าง) แผน Master Plan ซึ่งเป็นผู้แทนจากหน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และภาคแรงงาน จำนวน 150 คน โดยจะนำข้อมูลที่ได้ในครั้งนี้ไปวิเคราะห์และสังเคราะห์ เสนอต่อคณะ กพร.ปช. พิจารณา เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad



Pages