มูลนิธิสมาคมสตรีอุดมศึกษาในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมพระนราธิวาสราชนครินทร์ บดินทรเชษฐภคินี โดย นางสาวอัญชุลี สิมะเสถียร ประธานมูลนิธิ ฯ ร่วมกับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ร่วมกันจัดการแสดงละครเสภาเรื่อง “ ขุนช้างขุนแผน ตอน พลายชุมพล ” เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 73 พรรษา โดยจะจัดแสดงในวันอังคารที่ 23 ธันวาคม 2568 ที่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการจัดการแสดงเพื่อเทิดพระเกียรติ ต่อเนื่องเป็น ปีที่ 3 โดยในปี 2566 เป็นการแสดงละครเรื่อง “ มโนราห์ ” ปี 2567 เป็นละครนอกเรื่อง “ สังข์ทอง ตอน นางมณฑาลงกระท่อม ”
มาปีนี้ จัดแสดงละครเสภาเรื่อง “ ขุนช้าง ขุนแผน ตอน พลายชุมพล ” ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 องก์ คือ “ ขุนแผน ได้ แก้วกิริยา ” และ องก์ที่ 2 ตอน “ ศึกโกลา สองพี่น้อง ” คือ พระไวย กับ พลายชุมพล โดยมี ดร.วันทนีย์ ม่วงบุญผู้ชำนาญการศิลปการแสดง กรมศิลปากร เป็นผู้ประดิษฐ์ท่ารำ และควบคุมและกำกับการแสดง ร่วมด้วย นางสาวตวงฤดี ถาพรพาสี และ นางสาวธนันดา มณีฉาย นาฏศิลปินอาวุโส กรมศิลปากร เป็นผู้ช่วยกำกับการแสดง
ก่อนการแสดงละครเสภา ขุนข้าง ขุนแผน มีการแสดงหน้าม่าน ชุด ชุมนุมเผ่าไทย รำถวายอาลัย ชุด “ 24 ตุลา มหาวิปโยค ” เพื่อถวายความอาลัย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และการแสดงรำถวายพระพร เพื่อเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระจ้าอยู่หัว และ สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี แต่งเนื้อร้องและประดิษฐ์ท่ารำ โดย ดร.วันทนีย์ ม่วงบุญ ต่อด้วยละครเสภาเรื่อง ขุนช้าง ขุนแผน ซึ่งจะเริ่มด้วยการขับเสภาโดยนายสมชาย ทับพร ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรี - ขับร้องปีพุทธศักราช 2565 ต่อด้วยละครภาคแรก ตอน ขุนแผนได้แก้วกิริยา อันเนื้อเริ่องโดยสังเขปมีว่า ขุนแผนโกรธแค้นที่ขุนข้างลักพานางวันทองไปอยู่กับตนจึงหาของวิเศษ 3 อย่าง ได้แก่.. ดาบฟ้าฟื้น, กุมารทอง และ ม้าสีหมอก แล้วเดินทางไปยังบ้านขุนช้าง หวังจะพานางวันทองหนี เมื่อมาถึงเรือนชุนช้าง ขุนแผนได้ชมพันธุ์ไม้นานาที่ขุนช้างปลูกไว้ และได้พบนางแก้วกิริยา ทั้งสองเกิดมีปฏิพัทธ์ต่อกัน จึงเป็นที่มาของการแสดงอีก 2 ชุดในองก์แรกนี้ คือระบำม้า และระบำดอกไม้ และ เพื่อให้ได้บรรยากาศ จึงได้ นำเพลง “ รักไม่รู้ดับ ” จาก คณะนักร้องประสานเสียงอาวุโสไทย และวงประสานเสียงหญิง “ ทับทิมสยาม ” มาขับร้องในครั้งนี้ นำโดย นางโสภาวรรณ มงคลธรรมกุล นายกสมาคมนักร้องประสานเสียงอาวุโสไทย โดยมี นายธนาวุฒิ ศรีวัฒนะ เป็นผู้อำนวยเพลง
การแสดงละครเสภา เรื่อง ขุนช้างขุนแผน องก์ที่ 2 ตอน “ ศึกโกลา สองพี่น้อง ” เริ่มจากการขับเสภา เพื่อให้ดำเนินเรื่องสอดคล้องกับองก์ที่ 1 หลังจากขุนแผนและแก้วกิริยา ให้กำเนิดพลายชุมพลแล้ว ได้ส่งพลายชุมพลให้ไปอยู่กับย่า ร่วมกับพระไวย ซึ่งเป็นลูกชายของนางวันทองกับขุนแผน พระไวยได้แต่งงานกับนางศรีมาลา และ นางสร้อยฟ้า และถูกนางสร้อยฟ้า ทำเสน่ห์ จนเกลียดขังและเฆี่ยนตีศรีมาลา เมื่อขุนแผนและพลายชุมพลว่ากล่าวตักเตือน ทำให้พระไวยไม่พอใจ ถึงกับลำเลิกบุญคุณว่าตนเป็นผู้ขอพระพันวษาอภัยโทษให้ขุนแผน ออกจากคุก และยังเข้าใจผิดว่าพลายชุมพลเป็นชู้กับศรีมาลา ทำให้ขุนแผนและพลายชุมพลโกรธเคือง จึงร่วมกันทำอุบายโดยพลายชุมพลปลอมตัวเป็นมอญใหม่ ยกทัพมาทำศึกกับพระไวยพี่ชาย อันเป็นที่มาของ ศึกโกลา สองพี่น้อง และเพื่อให้ได้บรรยากาศ จึงได้นำเพลง “ ใครหนอ ” จาก คณะนักร้องประสานเสียงอาวุโสไทย และ วงประสานเสียงหญิงทับทิมสยาม มาขับร้องในตอนสุดท้าย
ในการนี้ทาง มูลนิธิสมาคมสตรีอุดมศึกษาฯ ได้จัดงานแถลงข่าว และให้สื่อมวลชนเก็บภาพการซ้อมรำในแต่ละชุด เพื่อนำไปประชาสัมพันธ์เผยแพร่การจัดการแสดงดังกล่าวด้วย ...
































ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น