ปภ. ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กำชับศูนย์ ปภ. เขต สนับสนุนจังหวัดดูแลประชาชนเต็มที่ - เผย ' กรมบัญชีกลาง ' อนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการฯ จังหวัดละ 100 ล้านบาท เพิ่มอีก 3 จังหวัด เพื่อช่วยเหลือประชาชน ... - MOJO THAI NEWS

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันเสาร์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ปภ. ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา กำชับศูนย์ ปภ. เขต สนับสนุนจังหวัดดูแลประชาชนเต็มที่ - เผย ' กรมบัญชีกลาง ' อนุมัติขยายวงเงินทดรองราชการฯ จังหวัดละ 100 ล้านบาท เพิ่มอีก 3 จังหวัด เพื่อช่วยเหลือประชาชน ...

ที่ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อาคาร 3 ชั้น 5 กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  / เมื่อเวลา 12.00 น. วันนี้ (26 ก.ค. 68)  นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประชุมกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) เพื่อติดตามสถานการณ์การปะทะบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา โดยมี นางสาวชัชดาพร บุญพีระณัช รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ผู้แทนสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตที่รับผิดชอบจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ผู้แทนหน่วยงาน ปภ. ส่วนกลาง เข้าร่วมประชุม และประชุมผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พร้อมสั่งการให้ศูนย์ ปภ.เขต สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยไปยังจังหวัดที่มีสถานการณ์เพิ่มเติม ย้ำ ปภ. พร้อมสนับสนุนจังหวัดในการดูแลประชาชนเต็มที่ เผยกรมบัญชีกลางได้อนุมัติขยายวงเงินทดลองราชการฯ ให้จังหวัดชายแดน เพิ่มอีกจังหวัดละ 100 ล้านบาท เพื่อเร่งช่วยเหลือประชาชน 

นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เปิดเผยว่า.. กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา มาอย่างต่อเนื่อง และทาง ปภ. ได้สนับสนุนเครื่องจักรกลสาธารณภัยไปยังจังหวัดที่มีสถานการณ์และได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะการให้ความช่วยเหลือด้านการอพยพ การร่วมดูแลภายในศูนย์พักพิงชั่วคราว และการดำรงชีพเบื้องต้น โดยในวันนี้ตนได้สั่งการให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 3 ปราจีนบุรี และเขต 17 จันทบุรี ที่รับผิดชอบพื้นที่จังหวัดตราดและจันทบุรี ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีสถานการณ์เพิ่มเติม ให้เสริมกำลังสนับสนุนการดูแลประชาชนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ทราบว่าได้มีการอพยพประชาชนไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวและจุดปลอดภัยที่ทางราชการจัดไว้แล้ว ได้กำชับให้ศูนย์ปภ. เขต เตรียมเครื่องจักรกลสาธารณภัยสนับสนุนเข้าพื้นที่ไม่ว่าจะเป็น รถดับเพลิงชนิดเคมีโฟม รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย รถประกอบอาหาร รถผลิตน้ำดื่ม และ รถไฟฟ้าสว่าง 



“ ได้เน้นย้ำให้ 3 จังหวัดที่มีสถานการณ์เพิ่มเติม ทั้งจันทบุรี ตราด และสระแก้ว หากประเมินแล้วจำเป็นต้องอพยพประชาชนเร่งด่วน และต้องใช้การแจ้งเตือนผ่านระบบ Cell Broadcast ให้จังหวัดประสานศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ทันที เพื่อ ปภ. จะได้ส่งแจ้งเตือนให้ประชาชนในพื้นที่ทราบอีกทางหนึ่ง ” นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าว 


นายภาสกร กล่าวเพิ่มเติมว่า.. เพื่อเป็นการสนับสนุนการปฎิบัติงานเหตุการณ์ชายแดนและการช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้เสนอกรมบัญชีกลางเพื่อขอขยายวงเงินทดรองราชการ ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2562 กรณีภัยอันเนื่องมาจากการกระทำของกองกำลังจากนอกประเทศ ซึ่งกระทรวงการคลัง ได้อนุมัติให้กับ 4 จังหวัดแล้วเมื่อวานนี้ ได้แก่ สุรินทร์ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี และศรีสะเกษ โดยเพิ่มเติมจากเดิม จังหวัดละ 20 ล้านบาท เป็นจังหวัดละ 100 ล้านบาท สำหรับอีก 3 จังหวัด ได้แก่ จันทบุรี ตราด และสระแก้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการเสนอพิจารณา ทั้งนี้ ได้เน้นย้ำให้จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบหลักเกณฑ์อย่างเหมาะสมและเต็มที่ ถ้ามีความประสงค์จะขอรับการสนับสนุนด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเพิ่มเติมให้ประสานมาที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้ทันที ...

#ข่าว #ปภ #รู้ทันภัยกับปภ #ชายแดนไทยกัมพูชา #ไทยกัมพูชา #SaveThailand ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad



Pages