มจร. จัดงาน วันสันติภาพสากล 2025 มอบรางวัล “ ลมหายใจแห่งสันติภาพ ” แด่ผู้นำศาสนาและผู้นำประเทศ " ศุภจี " รมว.พาณิชย์ เข้าร่วม ด้าน “ พระเมธีวัชรบัณฑิต ” แนะแนวทางสร้างสันติภาพไทย-กัมพูชา มั่นใจ 2 ประเทศ สุดท้ายไกล่เกลี่ยกันได้ ... - MOJO THAI NEWS

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2568

มจร. จัดงาน วันสันติภาพสากล 2025 มอบรางวัล “ ลมหายใจแห่งสันติภาพ ” แด่ผู้นำศาสนาและผู้นำประเทศ " ศุภจี " รมว.พาณิชย์ เข้าร่วม ด้าน “ พระเมธีวัชรบัณฑิต ” แนะแนวทางสร้างสันติภาพไทย-กัมพูชา มั่นใจ 2 ประเทศ สุดท้ายไกล่เกลี่ยกันได้ ...

ที่ ห้องนภาลัย โรงแรมดุสิตธานี กรุงเทพฯ / เมื่อวันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2568 หลักสูตรสตินวัตกรรมและสันติศึกษา บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร) โดยการนำของ พระเมธีวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ผู้อำนวยการหลักสูตร ร่วมกับภาคีเครือข่าย จัดงาน " วันสันติภาพสากล ประจำปี 2568 " ภายใต้แนวคิด “ สังคมตื่นรู้ สู่การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว ” (Mindful Society for Green Economy Development) โดยมีพระสงฆ์ แขกผู้มีเกียรติ อาทิ คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงงพาณิชย์, ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย, นายวรเกียรติ สุจิวโรดม เจ้าของโครงการ ชาวนา มหานคร, ดร.สุเทพ อารมณ์รักษ์ นายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจท่องเที่ยวไทย (สธทท.), คุณกุลพรภัสร์ วงศ์มาจารภิญญา บริษัทไทยสมาย บัส จำกัด, คุณญาธิภา สิงห์สุวรรณ ผู้อำนวยการส่วนการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร, ดร.ชวิศ ชื่นเจริญ (อ.มุ่ย หูทิพย์), คุณกชนันท์ ซิดดิค Mrs. Thailand World 2025, คุณพิมพ์ลภัส ชื่อมณีสวรรค์ มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023  ฉะเชิงเทรา, นางสาวภัทรดา แก้วผ่อง มิสวิวแชร์ 2025  และ ฉายวิชญ์ สุจริตกุล (ลูกเสือ) ฯลฯ ร่วมงานอย่างคับคั่ง    





ภายในงานมีกิจกรรมไฮไลท์ที่น่าสนใจ ได้แก่.. การมอบรางวัล “ ลมหายใจแห่งสันติภาพ ” (Breath of Peace Award) แด่ พระพรหมบัณฑิต (ศ.ดร.) เจ้าอาวาสวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม ผู้นำทางจิตวิญญาณผู้ผลักดันให้วันวิสาขบูชาเป็นวันสำคัญสากลโดยสหประชาชาติ และผู้ริเริ่มการประชุม UN Day of Vesak ผู้พัฒนาแนวคิด “ สันติภาพภายในสู่สันติภาพภายนอก ” ที่ทรงคุณค่าต่อสังคมโลก, ฯพณฯ ดาโช เชอริง โทบเกย์ นายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรภูฏาน ผู้นำประเทศที่ยึดมั่นในความยั่งยืน ขับเคลื่อนภูฏานสู่สถานะประเทศคาร์บอนเป็นกลาง ส่งเสริมปรัชญา Gross National Happiness (GNH) และสนับสนุนโครงการ Gelephu Mindfulness City (GMC) ให้เป็นเมืองต้นแบบด้านสันติภาพและนวัตกรรม และศิษย์เก่าดีเด่นอีกจำนวน 6 ท่าน







นอกจากนี้ ยังมีการปาฐกถาพิเศษโดย พระพรหมบัณฑิต ศ.ดร. กรรมการมหาเถรสมาคม ในฐานะประธานสมาคมวันวิสาขบูชาโลก เรื่อง “ สังคมตื่นรู้ สู่การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว ”  ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ท่านทำมาก่อนสหประชาชาติหรือ UN ผ่านเศรษฐกิจพอเพียง คือ ก่อนที่สหประชาชาติประกาศ SDG 17 ข้อ เดิม UN ทำแค่ 3 เรื่อง คือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์เพิ่มเรื่องวัฒนธรรมเข้ามาด้วย คือ เพิ่มเรื่องจิตใจ เรื่องประเพณี ฐานรากทางจิตวิญญาณเข้ามาด้วย ซึ่งตอนหลัง UN เพิ่มสิ่งนี้เข้ามา เพียงแต่สังคมไทยไม่ค่อยตระหนักรู้ เพราะเราหลงไหลไปกับกระแสทุนนิยม

พระพรหมบัณฑิต กล่าวตอนหนึ่งว่า แรกเริ่มตอนที่เปิดหลักสูตรสันติศึกษาขึ้นมา มีการเชิญผู้หลักผู้ใหญ่มาร่วมงาน ตอนแรกก็คิดอยู่ว่าจะไปรอดหรือไม่ บัดนี้เปิดมาถึงรุ่นที่ 10 แล้ว มีวิศวกรสันติภาพรับใช้สังคมประเทศชาติไปแล้วประมาณ 400 ท่าน ก็ดีใจว่าเจ้าคุณหรรษาทำได้จนสำเร็จ ทำได้เกินคาด








รวมทั้งการเสวนาโดย ดร.ประสาร ไตรรัตน์วรกุล และ พระเมธีวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ที่มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองด้านสติและสันติภาพ โดยมี คุณนครินทร์ วนกิจไพบูลย์ จาก The Standard เป็นผู้ดำเนินรายการ รวมถึงเวที Peace Talk ที่เปิดพื้นที่ให้เยาวชนและภาคีเครือข่ายร่วมเสนอแนวคิดสร้างสรรค์ด้านสันติภาพ  

พระเมธีวัชรบัณฑิต, ศ.ดร. ในฐานะผู้อำนวยการหลักสูตรสตินวัตกรรมและสันติศึกษา กล่าวปิดงานว่า.. “ การจัดงานวันสันติภาพสากลครั้งนี้ คือการประกาศพลังแห่งสติและนวัตกรรมเพื่อสันติภาพ ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งในสังคมไทยและประชาคมโลก ”

พระเมธีวัชรบัณฑิต ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า.. ตลอดระยะเวลา 10 กว่าปี ที่หลักสูตรสันติของเราได้สร้างหลักสูตรขึ้น ได้นำไปสู่การสร้างสันติภาพตามสันติปณิธานที่เราได้ตั้งใจไว้ว่า ข้าพเจ้าขอตั้งสัจจะอธิษฐานว่า ข้าพเจ้าขอบำเพ็ญสันติบารมีพัฒนาชีวีให้รู้ตื่นและเบิกบาน ร่วมประสานมนุษย์และสังคมให้อุดมด้วยสันติสุขในทุกลมหายตลอดไปเถิด

ส่วนประเด็นความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เราจะสร้างสันติภาพได้อย่างไร พระเมธีวัชรบัณฑิต กล่าวว่า สิ่งที่หนึ่งที่เราต้องไม่ลืม คือ เรื่องของไทย-กัมพูชา เป็นพุทธศาสนิกชนเหมือนกัน นายกรัฐมนตรีไทยกับกัมพูชา ก็เป็นพุทธศาสนิกชนเหมือนกัน กษัตริย์ไทย – กัมพูชา ก็เป็นพุทธศาสนิกชนเหมือนกัน ในความที่ไม่เข้าใจกันในพื้นที่ชายแดน อาตมามีความเชื่อมั่นเหลือเกินว่า ตอนนี้สถานการณ์ยังมีความเร้าร้อน อาจจะเห็นต่างในเรื่องของพื้นชายแดนระหว่าง 2 ประเทศ

แต่ภายใต้ค่านิยมหลักของความเป็นพุทธศาสนิกชน อาตมามั่นใจว่า ท้ายที่สุดแล้ว เราจะสามารถไกล่เกลี่ยกัน เพราะในสถานการณ์ที่ผ่านมา นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และประธานอาเซียน ทำหน้าที่เป็นผู้ประนีประนอมข้อพิพาทระหว่าง 2 ประเทศ และภายใต้การไกล่เกลี่ยข้อพิพาทจะทำให้พี่น้องระหว่างไทย-กัมพูชา จะสามารถค้นหาความต้องการที่แท้จริง และอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขได้

พระเมธีวัชรบัณฑิต  ฝากทิ้งท้ายว่า.. หัวข้อหลักของการจัดงานครั้งนี้ คือ สังคมตื่นรู้ มุ่งสู่การพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว อาตมาว่า ตอนนี้สังคมกำลังมืดบอด กำลังหลบไหล กำลังตกอยู่ในภาวะของอวิชชา พอเป็นอย่างนี้ขึ้นมา จำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องปลุกสังคมนี้ให้มีความตื่นรู้ ให้มีสติสัมปชัญญะ เพื่อเราเองจะได้พากันออกจากกับดักของความมืดบอด ออกจากกับดักของความไม่รู้ของอวิชชา

“ เมื่อไปได้แบบนี้แล้ว เราจะพากันพัฒนาเศรษฐกิจของเราใส่สีเขียวเข้าไปในใจของเรา ให้ใจของเรามีความเป็นสีเขียว เพื่อเราจะไปพัฒนาเศรษฐกิจ ชุมชนของเราให้มีความสีเขียว ไม่ทำลายดิน ฟ้า อากาศ ไม่ทำลายธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม เมื่อนั้น สิ่งแวดล้อมก็จะกลับมาดูแลคุ้มครอง ป้องกัน รักษาพวกเรา เจริญพร ”


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Post Bottom Ad



Pages