" สว. " รับหนังสือจาก " เครือข่ายผู้ประกอบกิจการวิทยุชุมชน - กลุ่มเปราะบาง " ขอให้ตรวจสอบการประมูลคลื่นความถี่วิทยุของ กสทช.
ที่ลานรับเรื่องราวร้องทุกข์ ศาลาแก้ว อาคารรัฐสภา (สส.) / เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ธันวาคม 2567 นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา พร้อมด้วย นายชิบ จิตนิยม กรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และ การโทรคมนาคม วุฒิสภา รับหนังสือจาก องค์กรภาคีเครือข่ายผู้ประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียงภาคประชาชนแห่งประเทศไทย (อวชท.) นำโดย นายชาลี นพวงศ์ ณ อยุธยา ประธานองค์กรภาคีเครือข่ายฯ เพื่อขอให้ตรวจสอบการดำเนินงานของ คณะกรรมการ และ เจ้าหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เกี่ยวกับการประมูลคลื่นความถี่วิทยุ FM อาจขัดต่อกฎหมายและเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนเอกชนจนก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ
นอกจากนี้ ยังได้รับหนังสือจาก นายวุฒิศักดิ์ มีสอน ตัวแทนผู้ประกอบการวิทยุชุมชนจังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง เพื่อขอให้ ' นายกรัฐมนตรี ' เร่งรัดการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับการประกอบกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เข้าสู่การพิจารณาของสภาให้ทันในเดือนธันวาคม 2567 เพื่อให้ กสทช. เลื่อนการประมูลคลื่นออกไปก่อนจนกว่ากฎหมายจะแล้วเสร็จ เนื่องจาก กสทช. กำหนดไว้ให้วิทยุชุมชนทุกสถานีออกอากาศได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 เท่านั้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการวิทยุภาคประชาชน
ด้าน นางสาวนันทนา นันทวโรภาส กล่าวว่า.. จะดำเนินการตรวจสอบเรื่องดังกล่าวโดยใช้กลไกของวุฒิสภาด้วยการตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งเป็นผู้กำกับดูแลโดยตรง
ขณะที่ นายชิบ จิตนิยม กล่าวว่า.. ในวันที่ 3 ธันวาคม 2567 คณะกรรมาธิการการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม วุฒิสภา จะเดินทางไปประชุมหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้บริหาร กสทช. โดยจะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือเพื่อขอทราบแนวทางในเบื้องต้นก่อนพิจารณาในรายละเอียดต่อไป
ทั้งนี้ นางสาวนันทนา ยังได้รับหนังสือจากตัวแทนผู้ประกอบการวิทยุชุมชนที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง โดยได้สอบถามถึงภาครัฐว่าจะมีมาตรการ ดูแล ช่วยเหลือ เยียวยากลุ่มเปราะบางที่ดำเนินธุรกิจวิทยุชุมชนอย่างไรบ้าง เนื่องจากในปีหน้าจะมีการยุติการให้บริการกิจการวิทยุชุมชนทั้งหมด โดยผู้ประกอบการต้องเข้าสู่กระบวนการประมูลคลื่นความถี่ทุกคลื่น ซึ่งจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อกลุ่มเปราะบางและผู้ประกอบการรายย่อยที่ไม่สามารถแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ได้ ดังนั้นภาครัฐควรพิจารณามาตรการช่วยเหลือที่ครอบคลุมทั่วประเทศ ไม่เพียงเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ แต่ยังเพื่อสนับสนุนการกระจายข้อมูลข่าวสารผ่านวิทยุชุมชน ซึ่งเป็นช่องทางสำคัญสำหรับประชาชนในพื้นที่ห่างไกล การช่วยเหลือดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและช่วยส่งเสริมบทบาทของสื่อรายย่อยในฐานะสื่อกลางสำคัญในสังคม ...
สนับสนุนโดย..
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น