“ มวยไทย ” Soft Power มรดกภูมิปัญญาอันล้ำค่าของบรรพบุรุษไทยสืบสานต่อยอดมาแต่บรรพกาลจนถึงปัจจุบันสู่ลูกหลานไทย ...
22 กุมภาพันธ์ 2567 : ดร.นิวัตน์ ลิ้มสุขนิรันดร์ อธิบดีกรมพลศึกษา มอบหมายให้ ศูนย์อนุรักษ์ศิลปะมวยไทย สำนักการกีฬา กรมพลศึกษา เผยแพร่องค์ความรู้ ศิลปะแม่ไม้มวยไทย มรดกภูมิปัญญาอันล้ำค่าของบรรพบุรุษไทยที่สืบสานต่อยอดมาแต่บรรพกาลจนถึงปัจจุบันสู่ลูกหลานไทย โดยนำศิลปะมวยไทย ร่วมออกบูธนิทรรศการ ภายในงาน “ DASTA FORUM 2024 ในวาระพิเศษครบรอบ 20 ปี องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ” ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-23 กุมภาพันธ์ นี้ ณ BCC Hall ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลลาดพร้าว กรุงเทพฯ เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการนำมวยไทย ตอบโจทย์ผลักดัน Soft Power ส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว ..ซึ่ง มวยไทยเริ่มขึ้นในสมัยใดไม่ปรากฎชัดเจน หากแต่ได้เกิดขึ้นมานานแล้ว จึงนับเป็นศิลปะการป้องกันตัวประจำชาติไทยอย่างแท้จริงยากที่ชาติใดลอกเลียนแบบได้ ในสมัยก่อนมีการฝึกฝนมวยไทยอยู่ในรั้วในวัง สำหรับพระมหากษัตริย์ ราชวงศ์ และเหล่าทหาร เพื่อปกป้องประเทศชาติ แต่ต่อมามีการฝึกมวยแพร่หลายในชาวบ้านทั่วไป จึงแบ่งการฝึกมวยออกเป็น 2 คุณลักษณะ คือ 1 ฝึกเพื่อสู้รบกับข้าศึก และ 2 เพื่อต่อสู้ป้องกันตัว
มวยไทย นับเป็น Soft Power เป็นมรดกทางภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม เป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวของชนชาติไทยมาตั้งแต่ครั้งโบราณ เป็นการใช้ร่างกายเป็นอาวุธ 9 อย่าง หรือที่เรียกว่า “ นวอาวุธ ” ได้แก่ มือ 2 เท้า 2 เข่า 2 ศอก 2 และศีรษะ 1 รวมใช้ร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ มวยไทยจึงนับเป็นศิลปะการต่อสู้ที่เก่าแก่มาแต่อดีต เป็นศิลปะการป้องกันตัวที่ชายชาติทหารจะต้องฝึกฝนให้คล่องแคล่ว ทั้งยังมีปรากฏหลักฐานในพระราชพงศาวตารว่า “ในอดีด พระมหากษัตริย์ที่มีพระปรีชาสามารถจะทรงเชี่ยวชาญการชกมวยเป็นอย่างยิ่ง ขณะเดียวกันเจ้านายชั้นผู้ใหญ่ ขุนนางฝ่ายทหาร และสามัญชนจะฝึกฝนมวยไทยเพื่อป้องกันตัวและปกป้องชาติบ้านเมือง” เหตุผลเพราะการใช้อาวุธต่าง ๆ ในอดีตเช่น กระบี่ กระบอง พลอง ดาบ ง้าว ทวน จะมีประสิทธิภาพสูงขึ้นถ้าฝึกฝนคู่กับมวยไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการต่อสู้ป้องกันตัวในระยะประชิดตัวทำให้ได้เปรียบคู่ต่อสู้และได้รับชัยชนะได้ไม่ยาก สำหรับในยามสงบที่ว่างเว้นจากสงคราม มวยไทยจะถูกนำมาเป็นการประลองพละกำลังและประลองชั้นเชิงการต่อสู้จนกลายเป็นกิจกรรมทางสังคมมีการแข่งขันมวยในโอกาสสำคัญๆ
ศูนย์อนุรักษ์ศิลปะมวยไทย สำนักการกีฬา กรมพลศึกษา ให้ความสำคัญในการอนุรักษ์ ส่งเสริม และเผยแพร่ศิลปะมวยไทยกับองค์กรทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ เพื่อรักษาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ไทยและองค์ความรู้ด้านศิลปะ มวยไทย ปัจจุบันได้ดำเนินงานขับเคลื่อนนโยบายด้านการออกกำลังกาย กีฬา และนันทนาการ ให้บรรลุตามเป้าหมายและสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งกำหนดให้กรมพลศึกษาเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาขั้นพื้นฐาน การส่งเสริมและพัฒนาการออกกำลังกายและกีฬาเพื่อมวลชนให้กลายเป็นวิถีชีวิต โดยเฉพาะด้านการประสานความร่วมมือในการอนุรักษ์กีฬามวยไทยกับหน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน การบูรณาการกับการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมกีฬามวยไทยอย่างต่อเนื่องโดยมีการจัดกิจกรรมหลากหลายเกี่ยวกับมวยไทยให้มีความต่อเนื่องทุกระดับ พร้อมทั้งการให้คำปรึกษาด้านกีฬามวยไทยเพื่อเผยแพร่กีฬา มวยไทยในระดับต่าง ๆ เพื่อผลักดันมวยไทยสู่นานาชาติต่อไป ...
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น