วช. ร่วมกับ เครือข่ายนักวิชาการ 5 สถาบัน จัดกิจกรรม “ Seafood Business Matching ” เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการประมงเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอาหารทะเล ...

         

ที่ ร้าน Fishmonger Ari ซอยอารีย์ 4 ฝั่งเหนือ เขตพญาไท กรุงเทพฯ / เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและจับคู่ธุรกิจอาหารทะเล (Seafood Business Matching) ภายใต้โครงการ “ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการประมงเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอาหารทะเล ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ” ที่ วช. ให้การสนับสนุนทุนวิจัย โดย ดร. วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้มอบหมายให้ นายสมปรารถนา สุขทวี รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ พร้อมด้วยคณะผู้ทรงคุณวุฒิ วช. ร่วมเป็นเกียรติในการเปิดกิจกรรม โดยมี ผศ.ดร. อภิรักษ์ สงรักษ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย นายบุญรัตน์ บุญรัศมี หัวหน้าโครงการวิจัยและทีมนักวิจัย พร้อมด้วย ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ให้การต้อนรับ 

       

นายสมปรารถนา สุขทวี รองผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า.. วช. ภายใต้กระทรวง อว. เล็งเห็นความสำคัญของการขับเคลื่อน ต่อยอด และส่งเสริมการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ (Research Utilization) ซึ่งเป็นการนำผลงานวิจัยเชิงวิชาการในรูปแบบโมเดลทางธุรกิจมาบูรณาการให้เกิดองค์ความรู้ด้านธุรกิจอาหาร โดยธุรกิจอาหารทะเลมีความสำคัญกับภาคอุตสาหกรรมประมงของประเทศไทย ผู้ประกอบการประมงท้องถิ่นจึงจำเป็นที่จะต้องปรับตัวในการพัฒนาผลผลิตสัตว์น้ำสู่การสร้างมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์อาหารทางทะเล ซึ่งได้รับความร่วมมือจากเครือข่ายนักวิชาการจาก 5 สถาบัน ได้แก่.. 1) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย 2) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีรัตนโกสินทร์ 3) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระนคร  4) มหาวิทยาลัยสยาม  และ 5) มหาวิทยาลัยนานาชาติแสตมฟอร์ด  

       

ผศ.ดร. อภิรักษ์ สงรักษ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย กล่าวว่า.. วช. ให้การสนับสนุนทุนวิจัยและนวัตกรรม โครงการเรื่อง “ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการประมงเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจอาหารทะเล ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ” ภายใต้การขับเคลื่อนการต่อยอดและส่งเสริมการนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ด้านเศรษฐกิจ (RU) ซึ่งโครงการดังกล่าว ได้ดำเนินการวิจัยและพัฒนาบนประเด็นปัญหาเร่งด่วนของธุรกิจที่สำคัญใน 3 ด้าน ได้แก่ 1) การสร้างโมเดลธุรกิจอาหารทะเลของผู้ประกอบการประมงในจังหวัดปัตตานี เพื่อนำไปถ่ายทอดให้กับสมาชิกของสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี เพื่อช่วยสร้างความสามารถในการประกอบธุรกิจอาหารทะเล 2) การพัฒนาผลิตภัณฑ์และต่อยอดผลิตภัณฑ์จากวัตถุดิบอาหารทะเลคุณภาพเพื่อสร้างโอกาสในการแข่งขัน 3) การส่งเสริมและจัดการตลาดที่เหมาะสมต่อผลิตภัณฑ์ใหม่และตลาดเป้าหมายและการสนับสนุนระบบการกระจายผลิตภัณฑ์ด้วยกระบวนแบบ Cold Chain ที่เหมาะสมต่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ซึ่งทางสมาคมการประมงจังหวัดปัตตานี คาดหวังการเกิดผู้ประกอบการประมงต้นแบบที่สามารถดำเนินการให้มีความเข้มแข็งและสามารถแข่งขันได้อย่างต่อเนื่อง ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจหมุนเวียนในระดับพื้นที่อย่างแท้จริง รวมถึงขยายการเติบโตไปยังเครือข่ายธุรกิจใกล้เคียงให้มีการพัฒนาทั้งในด้านคุณภาพและมาตรฐานสำหรับอุตสาหกรรมอาหารทะเลของประเทศไทย  





กิจกรรมในครั้งนี้ มีทีมนักวิจัย คณะผู้ทรงคุณวุฒิ วช. ผู้ประกอบการประมงพาณิชย์ ร้านแพปูโชคอุดมรัชฏ์ จังหวัดปัตตานี มาร่วมเสวนาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เพื่อแลกเปลี่ยนการเชื่อมโยงผลผลิตงานวิจัยของอาหารทะเลในพื้นที่ สู่การประยุกต์ใช้วัตถุดิบจากผู้ประกอบการท้องถิ่นสู่ผู้ประกอบการร้านอาหาร และสร้างสรรค์เมนูจากวัตถุดิบอาหารทะเลที่มีคุณภาพตรงตามความต้องการของผู้บริโภค โดยทีมนักวิจัยได้เลือกร้านอาหารสำหรับจัดกิจกรรมในครั้งนี้ คือร้าน Fishmonger Ari ที่มีแนวคิดสอดคล้องกับงานวิจัย ในการทำธุรกิจเพื่อส่งเสริมและผลักดันวัตถุดิบอาหารทะเลจากท้องถิ่นของประเทศไทยให้เป็นที่แพร่หลาย และสร้างการรับรู้ต่อผู้บริโภค ถึงวัตถุดิบอาหารทะเลที่มีความสด สะอาด อร่อย และปลอดภัย ซึ่งเมนูที่น่าสนใจของร้าน Fishmonger Ari มีมากมาย อาทิ.. ซีซ่าสลัดปู คิวบันเบรด ทาปาสโชริโซปู กุ้งลายเสือย่าง พาสต้าเพสโต้หมึก และ Fish & ships  



        

ทั้งนี้ ทีมวิจัยหวังว่า งานวิจัยนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของการขับเคลื่อนธุรกิจอาหารทะเล ที่วัตถุดิบมีความ “ สด สะอาด อร่อย และปลอดภัย ” โดยผู้ประกอบการสามารถส่งวัตถุดิบตรงจากท้องทะเล จังหวัดปัตตานี สู่ผู้ประกอบการร้านอาหาร เพื่อนำไปรังสรรค์เมนูให้กับผู้บริโภคได้รับรู้คุณค่าคู่ความอร่อย และเป็นการส่งเสริมเศรษฐกิจจากทรัพยากรทางทะเลไทยอย่างยั่งยืนต่อไป ...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ททท. ร่วมมือกับ บขส. จัดรถนำเที่ยวฟรี 10 วัน โอกาสครั้งสำคัญ เปิดกรุ มรดกธรรมล้ำค่าแห่งยุครัตนโกสินทร์ เส้นทางเที่ยวชมโบราณวัตถุล้ำค่าที่หาดูได้ยากกับกิจกรรม “ เป็นบุญตา ครั้งหนึ่งในชีวิต ”

สมาคมการค้าโกโก้และช็อกโกแลตไทย (TACCO) แถลงข่าวการจัดตั้งสมาคมการค้าโกโก้และช็อกโกแลตไทย พร้อมเปิดตัว งาน Thailand Craft Chocolate Fest’24 ...

ค้าน ! ขึ้นค่าแรง 400 บาท พร้อมกันทั่วประเทศ .. 17 สภาองค์การนายจ้าง แสดงจุดยืนร่วมกันคัดค้าน การขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ ...